คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
คดีหมายเลขแดงที่ อ.899/2556 คดีหมายเลขดำที่ อ.805/2550
เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า
ขณะที่ผู้ฟ้องคดีรับราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง)
มีคำสั่งลงวันที่ 3 มิถุนายน 2542 ตั้งคณะกรรมการสอบสวน
โดยกล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานบกพร่องต่อหน้าที่ราชการ
กรณีทำสำนวนการสอบสวนคดีอาญาและคดีจราจรบกพร่อง ล่าช้า เป็นเหตุให้สำนวนคดีอาญาเสียหายรวม
7 สำนวนคดี คือ (1) คดีข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ อายุความ 10 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2540 จับกุมผู้ต้องหาได้ในวันเดียวกัน
ผู้ต้องหามีประกันตัวเกิน 6 เดือน นายประกันถอนหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2541 สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2543 พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา
แต่ไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลได้ (2) คดีข้อหาจำหน่ายยาบ้า 5 เม็ด อายุความ 20 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2540 จับกุมผู้ต้องหาได้ในวันเดียวกัน
ศาลปล่อยตัวเนื่องจากครบผัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้าย (3)
คดีข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2541 อายุความ 10 ปี จับกุมผู้ต้องหาได้ในวันเดียวกัน ศาลสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหาเนื่องจากครบผัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้ายแล้ว (4) คดีข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน อายุความ 10 ปี
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2541 จับกุมผู้ต้องหาได้ในวันเดียวกัน ศาลสั่งปล่อยตัวเนื่องจากครบผัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้ายแล้ว
สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2543 พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา แต่ไม่สามารถนำผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลได้ (5) คดีข้อหาอนาจารผู้เยาว์ในที่สาธารณะอายุความ 15 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2541 จับกุมผู้ต้องหาได้ในวันเดียวกันศาลสั่งปล่อยตัวเนื่องจากครบผัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้ายแล้ว
สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2542 พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา แต่ไม่สามารถนำผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลได้ (6) คดีข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง อายุความ 10 ปี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2541 จับกุมผู้ต้องหาได้ในวันเดียวกัน
ศาลสั่งปล่อยตัวเนื่องจากครบผัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้าย สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2542 พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา แต่ไม่สามารถนำผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลได้ (7) คดีข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง อายุความ 10 ปี
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2541 จับกุมผู้ต้องหาได้ในวันเดียวกัน ศาลสั่งปล่อยตัวเนื่องจากครบผัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้ายแล้ว
สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2542 พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา
แต่ไม่สามารถนำผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลได้
ต่อมา
คณะกรรมการสอบสวนวินัยมีความเห็นเสนอต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ว่า
การกระทำของผู้ฟ้องคดีเป็นความผิดวินัยฐานไม่ประพฤติตนให้เคร่งครัดต่อมารยาทและระเบียบแบบแผนของตำรวจ
เกียจคร้านละทิ้งหรือเลินเล่อต่อหน้าที่ราชการ
หรือประพฤติไม่สมควรอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยวินัยตำรวจ พุทธศักราช 2477
มาตรา 5 (3) (5) (7) และเสนอให้ลงทัณฑ์ผู้ฟ้องคดีโดยการกักยาม
5 วัน แต่คณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
พิจารณาให้เพิ่มโทษจากกักยาม 5 วัน เป็นกักยาม 30 วัน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงมีคำสั่งลงวันที่ 19
กรกฎาคม 2544 ลงโทษให้กักยามผู้ฟ้องคดี 30
วัน ตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาทัณฑ์ทางวินัย
หลังจากนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่
2 ได้เสนอผลการลงโทษไปยังผู้ถูกฟ้องคดีที่
1 (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้มอบอำนาจให้อนุกรรมการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ
เกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย คณะที่ 2 เป็นผู้พิจารณาแทน
โดยอนุกรรมการได้พิจารณาเรื่องการลงโทษทางวินัยของผู้ฟ้องคดีในการประชุมเมื่อวันที่
22 สิงหาคม 2545 และในการประชุมเมื่อวันที่
6 กุมภาพันธ์ 2546 มีมติให้เพิ่มโทษจากกักยาม
30 วัน เป็นไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2
จึงมีคำสั่งลงวันที่ 1 เมษายน 2546 สั่งลงโทษไล่ผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ ผู้ฟ้องคดีได้อุทธรณ์ไปยัง
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้พิจารณาเรื่องอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีแล้วมีมติให้ยกอุทธรณ์